หลุยส์ บูชัวร์กับการกลับมาใน To Unravel a Torment

ผลงานศิลปะที่ดี ส่วนหนึ่ง-มักจ่ายด้วยความเจ็บปวดแห่งชีวิต มีศิลปินในโลกนี้จำนวนไม่น้อยที่ขุดเอาพลังงานทางลบมาประกอบร่างสร้างใหม่ในทางบวก สั่งสมความรู้สึกควบคู่ประสบการณ์จนกลายเป็นผลงานที่ทำให้ผู้คนจดจำได้ หลุยส์ บูชัวร์ก็เช่นกัน ยากที่จะไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้หากคุณอยู่ในแวดวงศิลปะ งานอันทรงพลังของบูชัวร์แสดงมาแล้วทั่วโลก ส่วนมากแล้วก็จดจำเธอได้จากมามอง (Maman) แมงมุมยักษ์กับโครงสร้างมหึมา เธอกลับมาอีกครั้งในเนเธอแลนด์กับนิทรรศการ To Unravel a Torment

กว่าหกศตวรรษแห่งการอวดผลงานยิ่งใหญ่สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก Louise Bourgeois กลับมาอีกครั้งกับนิทรรศการ To Unravel a Torment และรวมเอา 40 ชิ้นงานคัดสรรจากคอลเลคชั่น ของพิพิธภัณฑ์ Glenstone มาร่วมแสดงด้วยที่พิพิธภัณฑ์ Voorlinden ประเทศเนเธอแลนด์ ซึ่งรวมถึง ‘Maman’ (มามอง) (1999) ประติมากรรมแมงมุมชิ้นยักษ์อันโด่งดัง

Louise Joséphine Bourgeois คือชื่อเต็มของบูชัวร์ ศิลปินชื่อดังเชื้อสายฝรั่งเศส-อเมริกัน ผลงานอันมีเนื้อหาหนักหน่วง เข้มข้น สืบเนื่องมาจากความเจ็บปวดที่ฝังรากลึกตั้งแต่สมัยเด็ก จนกลายเป็นปมแห่งจิตใต้สำนึก ทั้งเรื่องเพศ ปัญหาครอบครัวโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพ่อ ปมทางจิตวิทยาอันหลากหลายขับเคลื่อนให้บูชัวร์มักสร้างงานในเนื้อหาที่มุ่งไปทางจิตใต้สำนึกเช่น ความเจ็บปวด หรือความตายแสดงผลงานในรูปแบบศิลปะเหนือจริง (Surrealism) ลัทธิสตรีนิยม รวมถึงสร้างสรรค์ผลงานสามมิติ อันเป็นรูปแบบงานที่หาได้ยากในกลุ่มศิลปินหญิงยุคนั้นอีกด้วย

เป็นเรื่องน่าทึ่งมากว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บูชัวร์ได้ทดลองงานศิลปะของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า และยังสร้างสรรค์รูปแบบงานอันหลากหลาย จนเมื่อมันมาอยู่ร่วมกันแล้ว ชิ้นงานเหล่านั้นต่างสร้างบริบทเชื่อมโยงระหว่างกันแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้อย่างน่าประหลาดใจมาก – Suzanne Swarts ผู้อำนวยการแสดงความเห็นเอาไว้

หลายคนรู้จักหลุยส์ บูชัวร์จากภาพลักษณ์ของความเป็นศิลปินหัวรุนแรงผู้ล่าวิถีทางด้วยสติปัญญาและความหาญกล้าของตนเอง และยังไปไกลกว่าคนอื่นด้วยรสนิยมกับแนวคิดไม่ซ้ำใคร ทุกวันนี้ บูชัวร์กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งศตวรรษที่ 20 ไปแล้ว ศิลปินผู้ผสมผสานเรื่องเล่าส่วนตัวกับแง่มุมทางจิตวิทยาให้เข้ากับการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบและแง่มุมใหม่ๆ

ปัจจุบันประติมากรรมแมงมุมชิ้นยักษ์อันโด่งดัง ‘มามอง (1999)’ ปัจจุบันตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Voorlinden บริเวณประตูทางเข้าออกส่วนนิทรรศการ เมื่อเข้ามาภายในจะพบงานประติมากรรม  Personage แสดงอยู่ งานซึ่งประกอบสร้างจากบรอนซ์ หินอ่อน ปูนปลาสเตอร์ ยาง และผ้าทอ งานจัดวางในชื่อ Cells ที่ศิลปินแสดงสภาวะทางจิตและอารมณ์ที่ซ่อนภายในออกมา ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ กลัว หรือโดดเดี่ยว นิทรรศการนี้ยังแสดงงาน The Destruction of the Father (1974) ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่สุดของบูชัวร์ นิทรรศการนี้ได้สี่ผู้จัดงานผนึกกำลังกัน ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ Glenstone Potomac มูลนิธิ Easton และ Maryland